

นิว ชัยพล ควงภรรยาสาวนอกวงการ เมษา กิตติมา เปิดใจครั้งแรกกับการเตรียมตัวเป็นคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ ด้าน นิว ชัยพล คุยฟุ้งหลังเปิดอู่ปุ๊ปก็ติดปั๊ป เรียกว่า แรงดีไม่มีตก! พร้อมย้อนเล่าเส้นทางความรักกว่า 10 ปี เริ่มจากการเป็นเพื่อน กระทั่งเลื่อนขั้นมาเป็นคนรู้ใจ ก่อนเผยสาเหตุการเลิกราร่วม 2 ปี
แล้วก็ เพราะอะไร จึงกลับมาลงเอยกันได้อีกครั้ง จนถึงมีเบบี๋เป็นโซ่ทองคล้องใจ ในรายการคุยแซ่บ Show ทางช่อง One31 ที่มี พีเค ปิยะวัฒน์ แล้วก็ ชมพู่ ก่อนบ่าย เป็นพิธีกร
เห็นว่า เมษา ทราบก่อนว่า เราท้อง เล่าเรื่องราวให้ฟังหน่อย ?
เมษา : ทราบก่อน เนื่องจาก ตรวจก่อน เพราะเหตุว่า คุณนิว ไปทำงานที่ขอนแก่น จริงๆ เรา อยากตรวจพร้อมเค้า แต่ว่าตอนนั้นยังไม่แน่ใจ รู้สึกเหมือนร่างกายมันเปลี่ยนแปลงเปลี่ยนไปจากปกติ ท้องหรือเปล่า เลยลองไปซื้อที่ตรวจครรภ์มา ตรวจเอง 3 อัน หลายๆยี่ห้อ เพื่อความมั่นใจ
แล้วหลังจากนั้นก็ ลองตรวจดู ช่วงนั้นที่ตัดสินใจตรวจดู เพราะ ใกลักับวันแม่ด้วย 12 สิงหา ถ้าเกิดท้องขึ้นมา จะได้เป็นข่าวดีบอกครอบครัวในวันแม่ด้วย แล้วเค้าจะกลับมาวันที่ 10 เลยชิงตรวจก่อนเค้ากลับบ้าน
นิว มีความห่วงมั้ยที่ภรรยาจะเริ่มท้องแล้ว ?
นิว : รู้สึกไม่ห่วง แต่ว่ารู้สึกดีใจ แต่เป็นการดีใจที่ไม่รู้สึกอย่างนี้มาก่อน มันติ้นตันอย่างบอกไม่ถูก เรา กำลังจะเป็นพ่อแล้ว
ลึก ๆ ในใจรู้สึก เราแข็งแรงจังเลย ?
นิว : ก็เดือนเดียวติด ดีใจที่ติดเร็ว เนื่องจากว่า เราต้องการจะมีลูกเร็วอยู่แล้ว
เมษา : จริงๆ เค้าอยากมีมานานแล้ว ด้วยเหตุว่า เราแต่งงาน 18 ตุลา ปีที่แล้ว เค้าอยากแต่งแล้วมีเลย แต่เรายังไม่อยากมี เราต้องการใช้ชีวิตด้วยกันก่อน
เพราะ พึ่งจะแต่งงาน จะต้องปรับตัว แล้วเรื่องปีชงด้วย เนื่องจากว่า ปีที่ผ่านมาเป็นปีเสือ เราเกิดปีวอก กลัวลูกออกมาชงกับเรา เมื่อไหร่ที่คลอดหลังวันตรุษจีน นับเลยดีเดย์ เดือนนี้แหละฉันจะปล่อย
ก่อนหน้านั้น ถือความเชื่อมาก ฝ่ายหญิงไม่ให้ฝ่ายชายโดนเตียงเค้าเด็ดขาด ?
นิว : ก่อนแต่งงาน เริ่มคุยเรื่องขอแต่งงานเสร็จแล้ว วันที่ผมไปบ้าน เค้าไปกินข้าว อาจจะมีดื่มบ้าง ก็จะไม่กลับไปอยู่ที่บ้านจะนอนบ้านเค้า เค้าก็ให้ผมนอนห้องรับแขก เตียงห้ามยุ่ง ห้ามแตะ ห้ามเข้าห้องนอนเค้าเลย ด้วยเหตุว่า เค้าถือมาก
เมษา : พอแต่งงานกัน จะมีฤกษ์ปูเตียง ฤกษ์ส่งตัวที่เค้ามาทำพิธี เราก็รู้สึกว่า อยากที่จะให้มันเป็นวันแต่งงานเป็นต้นไป ก่อนหน้านั้นคุณห้ามมาโดน
ทำแบบนี้นานมั้ย ?
นิว ชัยพล : ก็ก่อนแต่งงานตั้งแต่ มิถุนา ผมแต่งงานเดือนตุลา ก็ 4 เดือน
เมษา : โดนเตียงอื่นได้ ไปนอนด้วยกันบนโซฟาได้ แต่ว่าจะต้องไม่ใช่เตียงอันนี้ที่จะเป็นห้องหอ
ขณะนี้ รู้เพศหรือยัง บอกได้มั้ย ?
เมษา : เพศชายค่ะ
มีตั้งชื่อไว้หรือยัง ?
เมษา : ชื่อยังไม่ได้ตั้งแบบฟันธงว่า จะให้ชื่อนี้ แต่เรามีเหมือนกลุ่มชื่อเป็นธีม ให้เกี่ยวเนื่องกับอะไร
มีแพ้ท้องบ้างมั้ย ?
เมษา : ไม่มีเลย ไม่มีอาเจียนเลย มีเหม็นบางอย่าง อย่างเช่น กาแฟ แต่ไม่ชอบเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว สิ่งที่แปลก คือ ของที่ชอบที่กลิ่นแรงๆ เช่น ครั้งก่อน เราชอบรับประทานหม่าล่า ชาบู หรือ เนื้อวัว ก็จะเหม็นมาก
นิว ชัยพล : ผมไม่มีอาการแพ้ท้องแทนเค้าเลย แต่เมษาเค้าจะตรงข้ามทั้งหมดทุกอย่างเลย แต่อันที่ไม่ชอบเลย ยกตัวอย่างเช่น แซนวิช พิซซ่า อาหารฝรั่ง ต้องการรับประทานทุกวัน ผมนี่งง
คบกันมากี่ปีแล้ว ?
นิว ชัยพล : ถ้าเกิดตั้งแต่วันแรกที่เป็นแฟน ตุลาปีนี้ 10 ปี
ทีแรกๆพบกัน เห็นว่า เป็นเด็กฝึกงานกับนักแสดง ?
เมษา : เป็นเด็กฝึกงานที่ Acts channel เรียนอยู่ปี 3 ที่อเมริกา เราจะกลับบ้าน แค่ปีละ 1 ครั้ง ตอนปิดเทอมใหญ่ ๆ 3 เดือน เราเลือกมาฝึกงานที่ไทย ไม่อย่างนั้นไม่ได้กลับบ้าน แล้วหลังจากนั้นก็ได้ที่ Acts Channel ก็เข้าไปฝึกงานตามปกติ เจอเค้าเพราะเหตุว่า เราถูกส่งไปตามกองเพื่อสัมภาษณ์สกู๊ป พบเค้าครั้งแรก คือ งาน Grammy Wonderland
นิว ชัยพล : แล้วเค้าก็มาสัมภาษณ์ผม แล้วหลังจากนั้นก็เหมือนกันว่า ผมเป็นเพื่อนกับเพื่อนสนิทเค้า เค้าก็เลยมาทักว่า เป็นเพื่อนคนเดียวกันนะ และก็แยกย้าย เค้าก็กลับไปศึกษาต่อที่อเมริกา
ผ่านไปไม่กี่เดือนปี 2012 มีรายการส่งผมไปอเมริกางานออสการ์ ก็ติดต่อกับเพื่อนเค้าว่า ผมจะไปแอลเอกับซานฟราน ให้เพื่อนเค้าพาเที่ยว ปรากฏว่า เพื่อนเค้าติดเรียนเลยส่งคนนี้มาแทน เค้าก็พาเราไปเที่ยวนู้นนี่ แต่ไม่รู้สึกอะไรเลยนะ จนถึงกลับมาก็ปรึกษากับเค้าตลอด ผมมีแฟนเลิกกับแฟน
เมษา : ต่างคนต่างมีแฟน อันนี้คือจุดเริ่มต้นที่ทำให้มีคอนแทคกันและกัน เป็นเพื่อนกันต่ออีกเป็นปีๆเลย
นิว ชัยพล : ก็เป็นเพื่อนสนิทกัน ผมมีแฟนเลิกกับแฟน ก็ปรึกษาเค้า เนื่องจากว่า เค้าเป็นเพื่อนผู้หญิง พอตอนเค้ากลับมาไทยมีปัญหากับแฟน เลิกกับแฟน แฟนเค้ายังอยู่อเมริกา เป็นรักระยะไกล ก็มีปรึกษากัน มีนัดกินข้าวกัน สนิทกันไปเรื่อย
ความรู้สึกเริ่มเปลี่ยนเมื่อไร ?
นิวชัยพล: ไม่รู้ กระทั่งผมต้องการไปจีบสาวคนนึง เลยคุยกับเค้าลดลง พอไปจับหญิงคนนึง ผ่านไปอาทิตย์เดียวผม มีความรู้สึกว่า บางสิ่งบางอย่างในชีวิตหายไป ความสบายใจมันหายไป นึกถึงการพูดคุยกับคนคนนี้ ถ้างั้นเราก็หยุดไม่จีบต่อแล้ว มาคุยกับคนนี้
แล้วเรารู้สึกยังไง ?
เมษา : จู่ๆเค้าก็หายไปเลย ก่อนหน้านี้ เลิกกับแฟน มีปัญหาก็ปรึกษาเรา แต่ว่าอันนี้หายไปเลย แล้วหลังจากนั้นก็ไม่บอกด้วยนะว่าจะไปจีบอีกคนนึง แต่ว่าเรามารู้เองจากอย่างอื่นจากโซเชี่ยล ก็เลยอ๋อว่า ที่หายไป เพราะ ไปจีบคนอื่นอยู่ ก็เลยโกรธ งอน แล้วก็ไปบอกเพื่อน เพื่อนก็เลยบอกว่า มึงชอบเค้าล่ะ
นิว : เพื่อนเราทั้งคู่ พูดว่า มึงสองคนชอบกันนะ มีความรู้สึกดีต่อกัน แต่ไม่รู้ตัว ก็มาง้อเค้า พยายามคุยเหมือนเดิม ก็มีไปทานข้าวกัน ดูหนังกันเลยบอกเค้าวันนั้นว่า ลองคบกันดูป่ะ แต่ว่าพูดเสียงค่อยๆ กลัวเค้าได้ยิน เพราะเหตุว่า ยังสองจิตสองใจ ไม่ใช่ไม่แน่ใจ แต่ว่ากลัวเสียเพื่อนดีๆไป
ถ้าว่าแฟนไม่เวิร์ค เราถอยกลับมาไม่ได้แล้ว เราก็เลยสองใจว่า จะเป็นแฟนดีมั้ย เลยใช้ศาสตร์มูเตลูเข้ามา ในช่วงเวลานั้นตี 2 ยี่สิบกว่า ผมเกิดวันที่ 27 เดือนกุมภา หากผมยกนาฬิกาขึ้นมาเป็น 227 ผมจะพูดอีกครั้ง “ลองคบกันดูป่ะ” เค้าก็เงียบ กลัวเหมือนกัน
เมษา : จริงๆ คือ ความคิดเหมือนกัน พอตอนเค้าพูด เราเลยยังไม่ได้ตอบในทันที แต่ว่าเรามาคุยกันก่อนว่า ทำไมถึงอยากคบกับเรา ถ้ามันไม่เวิร์คขึ้นมา มันจะเป็นยังไง
แต่มีอยู่ตอนนึงเลิกกันเหรอ เกิดอะไรขึ้น ?
เมษา : ใช่ 2 ปี
นิวชัยพล : ในตอนนั้น คบกันได้ 5-6 ปี แล้วเค้าไปศึกษาต่อเมืองนอก พอเค้ากลับมาบางสิ่งบางอย่างหายไปปีนึง ต้องมาจูนกันใหม่ คือเราต้องการแต่งงานแล้ว แต่เค้ายังไม่ต้องการแต่ง อยากใช้ชีวิตก่อน มันก็เลยมีปัญหาเกิดขึ้น พอมันไม่ตรงกัน เราเลิกกันดีกว่า ห่างกันไป 2 ปี ระว่าง 2 ปีนั้นก็เสียใจ ทำใจไม่ได้ เป็นเพื่อนไม่ได้
ถ้าไม่มีเราแบบนี้ ขอไม่มีในชีวิตเลยแล้วกัน เลยบล็อกทุกทาง ทุกอย่าง ทุกการติดต่อ
เมษา บอกว่า จริงๆต้องการมีเค้าอยู่นะ แต่ไม่ใช่ในเวลานี้ ?
เมษา : เหมือนเค้าไม่ใช่สำหรับปัจจุบัน เหมือนอยู่ด้วยแล้วไม่มีความสุข ณ ขณะนั้น มีความคิดว่า เป็นคนที่ใช่สำหรับอนาคต สำหรับเพื่อการที่จะแต่งงาน เห็นภาพนะ แต่ว่าในขณะนั้นอยู่ด้วยไม่มีความสุข
แล้วกลับมาพบกันยังไง ?
นิวชัยพล : ก็ทำรายการทางบริษัทของคุณแม่เมษาทำแคมเปญ อยากแจกโชคให้กับผู้โชคดี แล้วเค้าหาพิธีกรใหม่มาทำ บริษัทที่ติดต่อมา เค้าก็พูดว่า รายการนี้ เป็นของคาราบาวแดงแล้วทำคู่กับเมษา นิวจะทำมั้ยมีเวลา 15 นาที ด้วยเหตุว่า โปรเจ็คมันเริ่มแล้ว ถ้าหากไม่ทำเค้าจะหาคนอื่นทำ
จากวันนั้นมามีเบบี๋ได้อย่างไร อะไรมันเปลี่ยน ?
นิวชัยพล : กำแพงของเราก็ทลายลงไป เพราะเหตุว่า เราตั้งกำแพงว่า เราจะไม่เป็นเพื่อน แต่ว่าเราพบกันทุกอาทิตย์ มันก็จะต้องเริ่มคุยกันมากเพิ่มขึ้น ต้องยอมรับว่า 2 ปีที่หายไป ไม่มีวันไหนที่ผมไม่คิดถึงเค้า ย้อนไปตั้งแต่วันแรกเมื่อย้อนกลับไป 2013 ไม่มีวันไหนที่ผมไม่รักเค้า ตอนเลิกกันผมก็รักเค้าตลอด 2 ปี มีใครเข้ามาใหม่ ผมก็พยายามเปิดใจแล้ว
แต่พอรู้สึกว่ายังคิดถึงเค้าอยู่ ก็จะพูดว่า ขอโทษนะ เรายังคิดถึงเมษาอยู่ ไม่ต้องการที่จะอยากเริ่มต้นใหม่กับใคร พอไปถึงช่วงนึง เราคุยกับเค้าไปเรื่อยๆ กำแพงเริ่มทลาย ความรู้สึกดีๆ มันเริ่มกลับมา เราก็บอกเค้าว่า ถ้าหากจะกลับมาเป็นแฟนกัน กลับมาคบกัน คือคบแล้วแต่งงานนะ ถ้าเกิดคบแบบลองดูอีกครั้งนึง อย่างนี้ไม่คบแล้ว เสียเวลาชีวิต
พอตัดสินใจคบกันแล้ว ตัดสินใจว่า ต้องแต่งงาน ?
นิวชัยพล : พอคบกันก็มีความรู้สึกว่า ทุกๆอย่างมันดีขึ้น เราก็ไม่รอช้า คบกันไม่กี่เดือนขอแต่งงานเลย
เมษา : เซย์เยสเลย ในช่วงเวลาที่ขอเหมือนทุกๆอย่างมันใช่แล้ว เหมือนแยกย้ายกันไป เพื่อจะเติบโต เปลี่ยนแปลงไปในแนวทางที่ดีขึ้น อะไรที่ดีอยู่แล้วก็ดี อะไรที่ไม่ดีก็เหมือนไปปรับกันมา จนกระทั่งมันลงตัวมากๆ กระทั่งเป็นโมเม้นท์ที่ใช่ ก็เลยเซย์เยสไปเลย
รักมากมั้ย ?
นิวชัยพล : รักมากครับ รักมากที่สุดในชีวิต เราให้ทุกอย่างกับเค้าได้ ตั้งแต่วันที่แต่งงานเรา ก็บอกเค้าอย่างนั้น เราเป็นคนสองคนที่มาอยู่ร่วมกัน บางสิ่งบางอย่างคิดไม่เหมือนกัน เราก็ขอโทษในบางอย่าง ที่เราทะเลาะกันในบางเรื่อง แต่ในสิ่งที่เราทะเลาะกัน เรารู้กันอยู่แล้วว่า เราอยากให้สิ่งที่ดีที่สุดให้แก่กัน